วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วิเคราะห์ประเด็นและแสดงความคิดเห็น


ให้นักศึกษาวิเคราะห์ประเด็นต่อไปนี้ แล้วแสดงความคิดเห็นและตอบคำถามจากประเด็นปัญหาต่อไปนี้
1. สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
สาเหตุที่ร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนไทย ชอบเห็นสิ่งของก่อน แล้วค่อยซื้อ และยังร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ที่ทำให้สามารถออกไปชอปปิ้ง ด้วยการเดินทางที่ใช้ระยะเวลาไม่นาน ไม่เหมือนต่างประเทศ ที่ห้างร้าน อยู่ไกลกันมาก การซื้อสินค้าออนไลน์ จึงสะดวกกว่า การเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง และความสะดวกสบาย ในการชำระเงินออนไลน์ ซึ่งคนไทยส่วนน้อย มีความรู้เรื่องการ การชำระเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต อยากซื้อ แต่ไม่รู้จะชำระเงินอย่างไร ? อีกทั้ง ผู้ที่จัดทำเว็บไซต์ขึ้นมาแล้ว ถึงแม้จะสวยงาม แต่ไม่มีคนเข้า!!
1. ด้วยร้านค้าห้างในประเทศไทย มีมากมายภายใน 1 อำเภอ อาจจะมีมากกว่า 4 แห่งก็ได้ ทั้ง Big C, Carfu, Lotus , ห้างประจำท้องถิ่น หรือ 7-Eleven มีมากมาย อยากจะได้อะไรก็เดินทางไปดูได้ด้วยตัวเอง ดังนั้น การจะให้เว็บไซต์ของเราซื้อขายผ่าน Internet ได้ จึงต้องมีความแตกต่างกับการซื้อขาย ในห้างร้านทั่วไป
2. การชำระเงินออนไลน์ จากงาน E-commerce E-Business Expo 2007 ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน จะเห็นได้ว่า ธนาคารต่าง ๆ ทั้ง ธ.กสิกรไทย ธ.กรุงเทพฯ ฯลฯ ให้ความสำคัญกับการชำระเงินออนไลน์ และมีการจัดสัมมนาภายในงานอีกด้วย ทำให้เห็นได้ว่า ธนาคารต่าง ๆ เล็งเห็นถึงความสำคัญกับ E-commerce ในประเทศไทยที่มีโอกาสเติบโตได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต ผู้ประกอบธุรกิจหลายหมื่นคน ให้ความสนใจมาก แต่บุคคลทั่วไป ที่ไม่มีความชำนาญในการใช้อินเทอร์เน็ต การจะให้หันมาใช้การซื้อขาย ผ่านเว็บไซต์ก็ยังคงเป็นเรื่องยากอยู่ ดังนั้นต้องให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปมากขึ้น
3. การทำประชาสัมพันธ์หรือ การโปรโมทเว็บให้คนรู้จัก การทำเว็บไซต์เพื่อค้าขาย ก็เหมือนกับการเปิดร้านค้า ถ้าไม่โปรโมท ถ้าไม่บอกให้คนรู้ เว็บไซต์ก็จะไม่มีคนรู้จัก การทำเว็บไซต์ผู้ประกอบกิจการหลายแห่ง ให้ความสำคัญกับความสวยงามของเว็บ โดยการใช้อนิเมชั่นให้สวยงาม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การใช้งานของเว็บไซต์ ที่ต้องคำนึงถึงผู้ใช้งาน มากกว่า เจ้าของเว็บ เว็บไซต์ต้องใช้งานง่าย เข้าถึงได้รวดเร็ว และสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยในปัจจุบันที่ ทุกคนในโลกอินเทอร์เน็ตรู้จักกันดีคือ Search Engine ชั้นนำของโลกอย่าง Google
4. เว็บไซต์ E-commerce เกือบทุกเว็บ จะขายเพียงอย่างเดียว ยัดเยียดให้ลูกค้า เข้ามาซื้อของในเว็บไซต์ แล้วคนที่เข้ามาในเว็บได้ประโยชน์อะไรกลับมาบ้างหรือเปล่า?? เว็บไซต์ที่ดีไม่ได้เพียงแค่จะเอาเงินจากลูกค้าเพียงอย่างเดียว เราต้องให้อะไรกับลูกค้าก่อน ลูกค้าก็จะกลับเข้ามาซื้อสินค้าของเราเองในภายหลัง ซึ่งในส่วนนี้ อาจจะเป็น เรื่องของ บทความภายในเว็บ หากเว็บไซต์ ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ถ้าลูกค้าประสบปัญหา ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อในดี เปรียบเทียบ สินค้า อะไรดี แทนที่ลูกค้าจะเข้าไปดู ถามข้อมูลจาก pantip.com หรือไปโพสถามเพื่อนจากเว็บบอร์ดต่าง ๆ แต่ถ้าเรามีสิ่งเหล่านี้อยู่ในเว็บเลย คนเข้ามาดูเว็บไซต์เรา ถึงวันนี้อาจจะไม่ใช่ลูกค้าเรา แต่เมื่อเขาต้องการซื้อสินค้าจริง ๆ เว็บที่เขาไปอ่าน หาข้อมูลบ่อย ๆ จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คนเหล่านี้เข้ามาซื้อสินค้านั่นเอง
5. เครื่องมือสื่อสารกับเจ้าของเว็บ ผู้ประกอบกิจการ E-commerce หลายคน มีเว็บเป็นของตัวเอง แต่อีเมล์ที่ใช้ กับเป็น ฟรีอีเมล์ อย่าง Hotmail, Google, Yahoo จะเป็นอย่างไรถ้าลูกค้าติดต่อกับคุณแต่ อีเมล์ที่ได้รับเป็น siamwebthai@yahoo.com,siamwebthai@gamil.com ลูกค้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่า อีเมล์ หรือ sale ที่ติดต่อนั้นคือ เจ้าของเว็บแน่ ๆ ถ้าไม่ใช่ info@siamwebthai.com

2. ถ้าอยากจะให้ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ น.ศ.คิดว่าควรจะต้องประกอบด้วยปัจจัยใดบ้าง
1. กล้าตัดสินใจ ประการแรกที่ต้องทำคือ ค้นคว้าหาข้อมูล สร้างจินตนาการ กลั่นกรอง ความคิด หาช่องทางและโอกาสเมื่อมองเห็น จงกล้าตัดสินใจดำเนินการ เพราะธุรกิจนี้ ใช้เงินน้อยมาก เมื่อเทียบกับการเปิดร้านขายสินค้าในห้างสรรพสินค้า หรือตึกแถว ทั่วไป และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การขายสินค้าบนเว็บนี้สามารถขายให้คนได้ทั่วโลก และมีอากาศทั้งค้าปลีก ค้าส่ง และค้าส่งออกเป็นล็อตใหญ่ ฉะนั้น เมื่อเห็นโอกาส จงอย่ารีรอเป็นอันขาดหน้าที่หลักของท่านคือ การคิดเรื่องการตลาด
2. โปรแกรมด้าน E-commerce มีความพร้อมให้ใช้งานอยู่แล้วสำหรับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้น มีให้ใช้โดยทั่วไปอยู่แล้ว เช่นwww.ecombot.com ซึ่งมีระบบครบถ้วนสมบูรณ์อยู่แล้ว ทั้งหน้าร้าน หรือออกแบบเว็บเพจให้มี ระบบออนไลน์แคตาล็อค ระบบตระกร้า หรือ Shopping Cart ระบบรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตแบบ Real-time ระบบติดตามผลการขาย ระบบออกรายงานขาย ระบบลงทะเบียน Search Engines เป็นต้น ฉะนั้น หน้าที่ของท่านก็เพียงแต่นำเอาข้อมูลสินค้า ราคา รูปภาพที่เตรียมไว้แล้ว ป้อนเข้าสู่ระบบเท่านั้น ก็สามารถเปิดใช้งานไดทันที
3. ใช้งบประมาณลงทุนน้อย เงินลงทุนที่ใช้เพียงค่าสมาชิกอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ โมเด็ม และค่าโปรแกรม E-commerce นอกจากนี้ยังมีการซื้อโปรแกรมระบบ E-commerce ในอัตราเดือนละ ไม่ถึง 500 บาท ก็เป็นอันเสร็จสิ้น แต่หากท่านไม่มีคอมพิวเตอร์ โมเด็ม และไม่ได้เป็นสมาชิกอินเทอร์เน็ต เลยก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนี้ ค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ประมาณ25,000 บาท ค่าโมเด็ม ประมาณ 3,000 บาท และค่าสมาชิกอินเทอร์เน็ตประมาณเดือนละ 500 บาท หรือรวมเบ็ดเสร็จแล้วลงทุนทั้งหมดอยู่ในราว 30,000 บาท
4. เร่งงานให้เสร็จตามกำหนด เวลา ในการลงมือทำงานแล้ว สิ่งสำคัญต้องเร่งทำเดินงานให้เสร็จทันตามเวลา ไม่ควรเรื่องมาก หรือเขียนคิ้วทาปากให้กับเว็บ ทำการทดสอบสินค้า และราคาก่อน เพราะสาระสำคัญทางการค้ายังมีเรื่องที่ต้องทดสอบอีกมาก และก็ไม่มีใครสนใจความสวยงามของเว็บท่านมากนัก เพราะเขามาซื้อสินค้าไม่ใช้มาซื้อเว็บของท่าน อย่าลืม "เรียบง่าย ดูดี น่าเชื่อถือ" เป็นสำคัญ


15 ความคิดเห็น:

  1. เนื้อหาน่าจะละเอียดมากกว่านี้นะค่ะ

    ตอบลบ
  2. หาใจความสำคัญและก็พิมพ์ตามความเข้าใจนะค่ะ

    ตอบลบ
  3. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  4. จากบทความของกล่าวเนื้อหาไว้ได้ดีนะครับ แต่หัวข้อบางอันยังไม่ค่อยครอบคลุมเนื้อหาสำคัญนะครับ
    ส่วนมุมมองของผมนั้นอาจมีส่วนปัจจัยต่างๆ เข้ามาเพิ่มอีก ซึ่งก็อาจกล่าวเสนอแนะเป็นลำดับประเด็นได้ดังนี้ นะครับ

    1. สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
    ในทางความคิดของผมก็จะมีในเรื่องลักษณะนิสัยของคนไทยเข้ามาเกี่ยวข้องตลอดจนภูมิสภาพทางการตลาดของผู้บริโภคซึ่งแตกต่างจากประเทศที่มีความเจริญก้าวหน้าด้าน E-commerce เป็นอย่างมาก รวมถึงด้านทัศนคติต่างๆของคนไทยที่ยังเข้าระบบที่ยังไม่ทั่วถึง อีกทั้งยังด้านไม่ไว้วางใจในด้านธุรกิจประเภทนี้ด้วยนะครับ

    2. ถ้าอยากจะให้ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ น.ศ.คิดว่าควรจะต้องประกอบด้วยปัจจัยใดบ้าง
    ผมคิดว่านอกจากปัจจัยที่กล่าวมานั้น น่าจะมีการสร้างพันธมิตรทางการค้าเข้ามามีส่วนช่วยเหลือระหว่างกันด้วยนะครับ

    ส่วน "SO LO MO" Social Media Location Mobile และ ZMOT เนื้อหาสาระดีครับ แต่น่าหาวิธีที่แสดงเนื้อหาให้เห็นภาพลักษณะมากกว่านี้ครับ

    ซึ่งจากข้อมูลในบทความนี้ส่วนใหญ่สามารถทำให้มองเห็นถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจ E-commerce ได้เป็นส่วนหนึ่งครับ ขอบคุณครับ

    ฝากลิ้งค์ ครับ http://ebusinesskorawit.blogspot.com/

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ13 สิงหาคม 2555 เวลา 07:28

    เนื้อหาใจความสำคัญมีความชัดเจนดี สามารถอ่านเข้าใจง่ายคะ
    ดิฉันขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวเพิ่มเติม ดังนี้
    ปัญหา
    1. ความยากจนยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง โดยทำให้เกิดความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
    2. นโยบายที่รัฐบาลเข้ามากำหนดมาตรการ เพื่อให้ความคุ้มครองกับผู้ซื้อและผู้ขาย ขณะเดียวกันมาตรการเรื่องระเบียบที่จะกำหนดขึ้นมาไม่ขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยี
    3. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล

    แนวทางการแก้ไข
    1. รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้
    2. รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
    3. รัฐต้องมีการวางแผนระยะยาวเกี่ยวกับการใช้ระบบ E-Commerce ทั้งในเรื่องของการออกกฎหมายตามหลักสากลและกฎหมายข้างเคีย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เป็นความรู้เพิ่มเติม ขอบคุณครับ

      ลบ
  6. เนื้อหาน่าจะคลอบคลุมมากกว่านี้นิดหนึ่งนะค่ะ

    แต่ก็อ่านพอเข้าใจนะค่ะ

    ตอบลบ
  7. น่าจะสรุปแบบคำพูดของเราตามที่เราเข้าใจนะค่ะ

    ตอบลบ
  8. เนื้อหาเยอะดี แต่ควรทำเครื่องหมายเน้นคำหน่อย อ่านแล้วเข้าใจยากค่ะ

    ตอบลบ
  9. เนื้อหาดีนะค่ะ แต่ควรจะสรุปเป็นภาษาของตัวเองที่เราเข้าใจนะค่ะ

    ตอบลบ
  10. เนื้อหาเยอะเกินไป อ่านแล้วทำความเข้าใจยากค่ะ

    ตอบลบ
  11. ดีมากค่ะเนื้อหาสาระดีมากสวยงามมากค่ะ

    ตอบลบ
  12. เนื้อหาสาระดีมาก เข้าใจง่าย

    ตอบลบ
  13. เนื้อหาเยอะดีนะคับ ธุรกิจเหล่านี้อาจจะเป็นธุรกิจใหม่ที่คนไทยยังไม่ค่อยน่าสนใจ

    แต่ในอนาคตผมว่าธุรกิจนี้จะเป็นการเปิดการค้าที่ทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้

    ส่วนตัวผมเองเกี่ยวกับธุรกิจด้านนี้เหมือนกันคับ

    :")

    ตอบลบ